เครื่องบินพลังยางในร่มที่แข่งขันกันนั้นมีหลายประเภท เช่น F-1D, F-1L หรือ F-1M เป็นต้น การกำหนดชื่อประเภทต่างๆนี้เป็นตามที่กำหนดโดยหน่วยงาน FEDERATION AERONAUTIQUE INTERNATIONALE หรือ FAI ที่กำกับกิจการการแข่งขันทั้งเครื่องบิน เครื่องร่อน บอลลูนชนิดที่มีคนนั่งขึ้นไปและเครื่องบินประเภทที่เรียกว่าเครื่องบินเล็ก โดยจดบันทึกเป็นสถิติโลก ในส่วนของเครื่องบินในร่มก็มีกติกาคร่าวๆของ F-1D คือ กางปีกไม่เกิน 55 ซม.น้ำหนักตัวต้องไม่ต่ำกว่า 1.2 กรัม น้ำหนักยางที่ทาน้ำยาหล่อลื่นแล้วต้องหนักไม่เกิน 0.6 กรัม ส่วน F-1L กางปีกไม่เกิน 46 ซม. น้ำหนักตัวเท่า F-1D แต่ไม่จำกัดน้ำหนักยาง ประเภท F-1M กางปีกไม่เกิน 46 ซม.เหมือนกันแต่น้ำหนักต้องไม่ต่ำกว่า 3 กรัม รูปถ่ายเครื่องบินแบบ F-1D ![]() เครื่องบินประเภทที่กล่าวถึงนี้จะบินอย่างช้าๆ คนเดินยังเร็วกว่าและบินอยู่ในอากาศได้สิบกว่านาทีขึ้นไป ประเภท F-1D นั้นมีหลายคนที่สามารถทำให้เครื่องบินอยู่ได้นานเกิน 60 นาที เมื่อมันบินอยู่ได้นานแบบนี้ถ้าจะรอปล่อยที่ละเครื่องก็จะใช้เวลามาก เขาเลยให้ปล่อยได้ทีละสองถึงสามเครื่องในเวลาเดียวกัน เมื่อมันบินอยู่นานและมีหลายเครื่อง โอกาสก็มีสูงที่เครื่องบินนี้จะมาชนกันเข้าหรือบินวนจนออกไปนอกพื้นที่ที่กำหนดเขาจึงมีการอนุญาตให้ทำการเปลี่ยนทิศทางได้โดยใช้ลูกโป่งอัดแกีส(ขนาดประมาณ 4 ฟุต)หรือไม้ยาวๆไปสะกิดหรือแตะที่ปีกเพื่อเปลี่ยนทิศทางหรืออุ้มไปปล่อยในบริเวณที่เหมาะสม โดยมีข้อกำหนดว่าถ้าเชือกที่ผูกลูกโป่งไปทำให้ใบพัดหยุดหมุนเขาก็จะหยุดเวลาไว้ พอใบพัดหมุนได้อีกก็จับเวลาต่อ ถ้าเอาไปรองใต้เครื่องแล้วพาเดินไปอีกที่หนึ่งก็ห้ามไม่ให้ความสูงเปลี่ยนแปลงและการกระทำดังกล่าวต้องทำจากทางด้านหน้าห้ามเอาไปดันทางด้านท้ายของเครื่องบิน ![]() คนที่สงสัยว่าดูในวิดีโอหรือรูปถ่ายเห็นมีคนถือไม้ยาวๆหรือลูกโป่งใหญ่ๆไปยืนในพื้นที่แข่งขันเครื่องบินคงจะได้รับความกระจ่างนะครับ |